วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Mercurial - Version Control System App

เริ่มต้นกันด้วยการ Install Mercurial ใน Ubuntu กันก่อนนะครับ
เปิด Terminal แล้วพิม sudo apt-get install mercurial


    จากนั้น cd ไปยัง Directory ที่ต้องการให้ Mercurial จัดการให้ และพิม hg init เพื่อเป็นการให้ Mercurial เริ่มทำงานจากนั้นลองพิม hg status จากนั้นพิม hg add จะสังเกตุเห็นว่าหน้าชื่อจะมีสัญลักษณ์ 2 แบบคือ ? กับ A ซึ่ง A หมายถึงว่าไฟล์นี้ได้ถูกเลือกเพื่อทำการจัดเก็บแล้วส่วน ? นั่นคือเรายังไม่ได้เลือกว่าจะให้ทำอย่างไรกับไฟล์เหล่านั้น



hg add เป็นคำสั่งเลือกไฟล์ให้ Mercurial จัดการโดยมีรูปแบบดังนี้

1.hg add เลือกไฟล์ทั้งหมดทุกไฟล์เข้าระบบ
2.hg add filename เลือกเฉพาะไฟล์ที่ตรงกับ filename เท่านั้น

จากนั้นลองพิม hg revert ./Tutorial1/*.pyc และ hg revert ./polls/*.pyc


hg revert ยกเลิกการเลือกไฟล์เข้าระบบโดยการยกเลิกมีรูปแบบดังนี้

1.hg revert * ยกเลิกการเลือกไฟล์ทั้งหมด
2.hg revert filename จะยกเลิกการเลือกไฟล์ที่ตรงกับ filename นั้นๆ

ซึ่งไฟล์ที่ไม่ควรเก็บก็จะมีไฟล์พวก .pyc .elc เป็นต้นซึ่งเราจะแก้ปัญหานี้โดยการเพิ่มไฟล์ .hgignore เข้าไปแต่ก่อนอื่นให้เราพิมคำสั่งใน terminal ว่า hg serve -p 9000


และลองเปิด Browser ขึ้นมาจากนั้นไปยัง address 127.0.0.1:9000/ จะโหลดหน้าของ Mercurial ขึ้นไปยังเมนูด้านซ้ายคลิกที่ help>hgignore จากนั้นลงไปล่างสุด Copy ตัวอย่างโค้ดของ hgignore ไว้


 จากนั้นกลับไปสร้างไฟล์ .hgignore โดยใช้โค้ดที่เราก็อปมาเมื่อกี้ใส่ลงในไฟล์ดังรูป


จากนั้นกลับไปที่ Terminal แล้วลองพิม hg status ดูจะพบว่าไม่มีไฟล์ .pyc อยู่ในรายชื่อเลยเนื่องจากไฟล์ .hgignore ที่เราสร้างไว้สักครู่เป็นตัวกรองออกไปจากนั้นพิม hg add เพื่อเลือกไฟล์ทุกไฟล์


 จากนั้นให้พิม hg commit -m "Description" -u Author จากตัวอย่าง Description ใช้เป็น Start Project และ Author เป็น jinkatana ซึ่งคำสั่ง commit นี้ใช้ในการสั่งให้ Mercurial เก็บค่าของไฟล์ในขณะนั้นเป็น 1 Version ของเรา


ลองแก้ไขไฟล์อะไรก็ได้ไฟล์นึงใน Project ของเราจากนั้นลองพิม hg status จะมีชื่อไฟล์ที่เราแก้ไขโผล่ขึ้นมาพร้อมตัวอักษร M นำหน้าหมายถึงว่าไฟล์ถูกแก้ไขไปวิธีการอัพเดทให้ Mercurial เก็บค่าล่าสุดของ Project ก็พิมคำสั่ง hg commit -m "Description" -u Author เช่นเดิม


เมื่อ commit เสร็จแล้วลองเปิด Browser เข้าไปที่ 127.0.0.1:9000 เช่นเดิมจะพบว่ามี Versions ใหม่เพิ่มเข้ามาโดยเราสามารถกดเข้าไปดูได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างในแต่ละ Versions ครับ


---เพิ่มความแตกต่างระหว่างเวอร์ชั่นให้ดู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น